เรื่องย่อ ตัวอย่าง ระเริงไฟ เคน ธีรเดช ปะทะ นุ่น วรนุช เริ่ม 4 ธันวาคมนี้

ระเริงไฟ

ตัวอย่าง เรื่องย่อ ละครเรื่อง ระเริงไฟ พบกับ เคน ธีรเดช ปะทะ นุ่น วรนุช ตอนแรก 4 ธันวาคม 2560 ทางช่อง 3

[adsense3]

ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ซิติเซ่น เคน จำกัด เขียนบทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล นำแสดงโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, วรนุช ภิรมย์ภักดี, วิทยา วสุไกรไพศาล, อามีนา กูล, ชนาธิป โพธิ์ทองคำ และรินรดา แก้วบัวสาย ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง

เรื่องย่อระเริงไฟ

ชาคริตนักธุรกิจหนุ่มรูปงามผู้มาพร้อมกับไฟแค้น ภารกิจของเขาคือทำลายพวกเมธาสิทธิ์ ! ญาดา บุตรสาวคนโตของบ้าน กระโจนลงเล่นไฟเพื่อปกป้อน้องสาวจนตัวเธอเองเกือบจะต้องมอดไหม้ ไฟอุ่นบริสุทธิ์ในจิตใจเบื้องลึกของญาดาจะเปลี่ยนไฟแค้นที่สุมรุมใจของชาคริตได้หรือไม่ ? ฤาทั้งสองจะต้องมอดไหม้เป็นจุลไปพร้อมกัน !

ณ ห้องแกรนด์บอลรูมหรูหราของโรงแรมมีชื่อ กำลังมีงานฉลองคืนวิวาห์ของเขมิกา เมธาสิทธิ์ (อามีนา กูล) บุตรสาวตระกูดังที่มาไปด้วยผู้นับหน้าถือตา กับ ชาคริต (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่นำพาบริษัทเติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนสามารถเทียบชั้นพวกเมธาสิทธิ์ได้ ค่ำคืนแห่งการร่วมครอบครัวกลับพังครืน ลงเมื่อ ผู้เป็นเจ้าบ่าวไม่มาประกฎกาย ส่งเพียงสุ้มเสียงผ่านโทรศัพท์มาว่าเขากำลังบินไปพักผ่อนที่ฮ่องกง ในคืนวันอันสำคัญเช่นนี้

ญาดา (วรนุช ภิรมย์ภักดี) พี่สาวของเขมิกา เธอเป็นคนเก๋ สมาร์ทและใจเด็ดผิดกับเขมิกาที่อ่อนไหวง่าย ไม่มั่นใจและชอบมีหลักพักพิง ญาดาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ เธอรีบบินมาเพื่อมาร่วมงานสำคัญของน้อง ที่สนามบินญาดารีบร้อนจนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ! ดีที่ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งได้ช่วยเธอเอาไว้ ญาดายังไม่เคยเห็นใครที่มีดวงตาสวยคมจับใจเช่นนี้มาก่อน เธอจดจำเขาเอาไว้ในใจ โดยไม่ได้นึกฝันเลยว่า อีกไม่นานทั้งสองคนจะต้องมาพบกันอีก

เมื่อญาดามาถึงงานแต่งงาน กลับได้พบกับเขมิกาในสภาพที่ดวงใจแหลกสลาย คนอ่อนไหวอย่างเขมิกาไม่อาจรับสภาพเจ้าสาวถูกทิ้งได้ เธอจึงแอบหนีไป ทำให้ดิลก (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พ่อของเขมิกาที่มีโรคประจำตัวอยู่ถึงกับทรุด ญาดา และไตรทศ (ชนาธิป โพธิ์ทองคำ) น้องชายคนเล็กรีบเร่งกันออกตามหาตัวเขมิกา ขณะที่กมลพรรณ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ภรรยาใหม่ของดิลกต้องแสร้งว่าทุกข์ร้อนเพื่อเอาใจ พวกคุณ ๆ ส่วนปาริฉัตร (อริสรา ทองบริสุทธิ์) ลูกสาวของเธอ ซึ่งดิลกได้รับมาเป็นลูกบุญธรรมถึงกับแอบสะใจ ปาริฉัตรรู้สึกว่าตัวเองนั้นด้อยกว่า จึงแอบอิจฉาเขมิกา และญาดามาโดยตลอด และเธอยังแอบต้องใจชาคริตอีกด้วย เมื่อชาคริตทิ้งเขมิกาไป ปาริฉัตรจึงพอใจมาก

ขณะที่ชญานี (รินรดา แก้วบัวสาย) น้องสาวบุญธรรมที่ชาคริตดูแลมาแต่เล็ก กลับโล่งใจที่เธอไม่ต้องเสียพี่ชาคริตที่เธอแอบหลงรักมานานไปให้กับหญิงอื่น ในขณะที่จักรินโกรธชาคริตมาก ทัศนะ (วิทยา วสุไกรไพศาล) เพื่อนสนิทของชาคริตที่เป็นคนจิตใจดี หนักแน่นและรักเพื่อน ได้ตักเตือนจักริน ว่าชาคริตทำไปเพราะมีเหตุผล แต่เหตุผลคืออะไรนั้นเขาไม่สามารถบอกได้เพราะได้รับปากกับชาคริตเอาไว้ แม้แต่ทัศนะซึ่งรู้เบื้องหลังของชาคริต ก็ยังนึกไม่ถึงว่าเพื่อนจะลงมือทำร้ายพวกเมธาสิทธิ์ได้จริง ๆ วันที่ทัศนะเห็นชาคริตควงคู่มากับเขมิกาที่อ่อนหวาน และเพียบพร้อม เขาคิดว่าเพื่อนของเขาได้กลับใจลืมอดีตไปแล้วทัศนะเพิ่งรู้ในวันนี้เองว่าเขาคิดผิด

เขมิกาด่ำดิ่งสู่ห้วงทุกข์จนตัดสินใจจะจบสิ้นชีวิตของตัวเอง หญิงสาวเตรียมทิ้งร่างลงจากราวกั้นบนสะพานสูง เธอเชื่อว่านี่จะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะดับความทุกข์ทรมานใจ ตอนนั้นเองทัศนะที่สังหรณ์ใจอยู่ว่าเขมิกาอาจจะคิดสั้น ! จึงได้ไปค้นหาเธอที่สะพานซึ่งไม่ห่างจากโรงแรมนัก ทำให้ช่วยชีวิตเขมิกาไว้ได้ทันเวลา เขาเกลี้ยกล่อมให้เธอเลิกความคิดทำร้ายตัวเอง และยอมมาพักอยู่ที่บ้านของเขาก่อน โดยให้เพ็ญขวัญ (สิรินรัตน์ วิทยาพูม) น้องสาวของเขาที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีน้ำใจเป็นคนช่วยดูแล

เขมิกาขอให้ทัศนะเก็บเรื่องเธอไว้เป็นความลับอย่าบอกคนที่บ้าน เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใคร หากมีใครรู้และตามมาเธอก็จะไม่อยู่ที่นี่ ทัศนะจำต้องรับปากเพื่อที่เขาจะดูแลปกป้องเขมิกาได้ แต่ก็ให้เขมิกาโทรไปบอกกับที่บ้านว่าปลอดภัยดี โดยขอไม่บอกที่อยู่ให้รู้ นั่นทำให้ญาดา และไตรทศพอจะสงบใจลงได้กสิณ (แมทธิว ดีน) คนรักของญาดาที่รู้จักกันที่อังกฤษได้บินกลับมา เมื่อรู้ข่าวร้ายของบ้านเมธาสิทธิ์ เขาพยายามเข้ามาดูแลครอบครัวของคนรักด้วยอีกแรง ความเพียบพร้อมของกสิณทำให้ปาริฉัตรสนใจเขา แต่ก็ยังน้อยยกว่าที่เธอเคยสนใจชาคริตมาก่อน เพราะชาคริตหล่อเหลาคมคายกว่ากสิณ

ปาริฉัตรวางแผนจะหว่านเสน่ห์ใส่ทั้งชาคริต และกสิณ หากได้คนใดคนหนึ่ง เธอกับแม่จะได้พ้นสถานะตัวสำรองในบ้านเมธาสิทธิ์เสียที ! เมื่อมีโอกาสปาริฉัตรจึงแสร้งทำทีขอร้องให้กสิณว่าที่พี่เขยให้พาเที่ยว กสิณขัดไม่ได้ และนั่นทำให้เขาเริ่มตกหลุมพราง ปาริฉัตรยั่วยวนกสิณ จนกระทั่งเขาเผลอตอบสนองจูบของเธอ ทันที่นึกถึงญาดาเขารีบห้ามตัวเองไว้ ก่อนที่จะถลำลึกไปไกลกว่านี้

เมื่อชาคริตกลับจากฮ่องกงเขาจงใจไปดักรอเจอญาดาและไตรทศเพื่อหยามน้ำหน้าพวกเมธาสิทธิ์ ทำให้ญาดารู้ว่าชายคนที่เธอประทับใจที่สนามบินนั้นแท้จริงแล้ว คือศัตรูตัวฉกาจ แถมเขายังรู้จักพวกเธอทุกคนเป็นอย่างดี น้ำใจที่เขาเคยแสดงออกต่อเธออย่างดิบดี เป็นเพียงฉากละครที่เขาแอบหัวเราะเยาะอยู่ลับหลัง และเธอเป็นเพียงคนโง่ที่ถูกหลอก ! ญาดาโกรธเกลียดชาคริตมาก ฝ่ายชาคริตยิ่งเห็นพวกเมธาสิทธิ์เต้นเร่ามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งพอใจ เมื่อได้รู้ว่าเขมิกาอยู่กับทัศนะ เขายิ่งสนุกที่ได้เอาเรื่องที่อยู่เขมิกามาต่อรองกับญาดา โดยให้เธอยอมเป็นคู่ควงของเขา แล้วเขาจะยอมบอกที่อยู่ของเขมิกา ญาดาไล่เขาไปอย่างไม่แคร์ ชาคริตจึงขู่เธอ ว่าแล้วเธอจะต้องเสียใจ

ชาคริตลอบไปพบกับเขมิกาที่บ้านของทัศนะตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ เขมิกาตกตะลึงมาก เธอกลัวการเผชิญหน้ากับชาคริต เขาเหมือนปีศาจที่ทำลายอนาคตของเธอ แล้วเขายังมาบอกว่าคบกับเธอโดยที่ไม่ได้รัก และจงใจที่จะทิ้งให้เธอต้องอับอายขายขี้หน้า เขมิกาตกอยู่ในกองทุกข์ที่รุ่มร้อนขึ้นกว่าเดิม คราวนี้แม้ทัศนะจะช่วยปลอบ มันก็ไม่เพียงพอ เธอเริ่มประชดชีวิตโดยออกไปกินดื่มนอกบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ โดยอ้างว่ามันทำให้เธอลืมทุกข์ และเธอไม่ต้องการเป็นเพียงเด็กสาวอ่อนหัดที่โง่ให้ใครหลอกได้อีก ทัศนะไม่สามารถห้ามเขมิกาได้ ไม่เช่นนั้นเธอก็จะไปจากบ้านของเขา เขาจึงได้แต่แอบติดตามเธอไปในผับ โดยไม่ให้เธอรู้ตัว

ปาริฉัตรไปญาติดีกับชาคริต แล้วอ้างกับญาดาและไตรทศว่าเธอแกล้งดีกับชาคริตเพื่อจะได้ล้วงข้อมูลจากเขา แต่ความจริงแล้วปาริฉัตรคอยช่วยชาคริตแทงข้างหลังพวกเมธาสิทธิ์อยู่เสมอ ๆ วันหนึ่งที่ทั้งสองไปเที่ยวผับด้วยกัน ปาริฉัตรได้พบเขมิกาในสภาพนักดื่ม และหญิงสาวลืมแหวนที่ญาดาให้ไว้ที่อ่างล้างหน้าในผับ จึงเอาแหวนนั้นมาให้ชาคริต ชายหนุ่มนำมันไปเป็นเครื่องยืนยันกับญาดาว่าเขารู้ที่อยู่ของของเขมิกาจริง ๆ และน้องสาวของเธอนั้นกำลังจะเสียคนเพราะเหล้า

ญาดาห่วงเขมิการมากจนยอมตกลงตามข้อเรียกร้องของชาคริต ชาคริตใช้แต้มต่อในมือบีบให้ญาดาต้องยอมทำตามที่เขาสั่งต่าง ๆ นานา แต่สิ่งสุดท้ายที่ญาดายอมไม่ได้ คือเมื่อเขาเรียกร้องให้เธอจูบเขา ญาดาตบหน้าชาคริต ต่อว่าในความเลวทรามของเขาแล้วจากมา รู้สึกตัวเองช่างโง่เง่าเหลือเกินที่หวังจะได้ความจริงจากจิ้งจอกอย่างเขา

เมื่อไตรทศกับกสิณรู้เรื่องนี้ต่างก็ไม่พอใจ จะบุกไปทำร้ายชาคริตแต่ญาดาห้ามเอาไว้ เพราะยิ่งมีแต่เสียกับเสีย ไตรทศไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เขาอยากจะเอาคืนให้สาสมกับที่ชาคริตมาดูหมิ่นพี่สาว ไตรทศจึงแกล้งทำดีกับชญานี เพราะหากชญานีพลาดทำเสียทีให้กับเขา ชาคริตจะต้องรู้สึกบ้าง แต่ชญานีไม่ยอมหลงกลง่าย ๆ เพราะเธอได้เห็นกับตามาแล้วว่าไตรทศโกรธเกลียดชาคริตมากแค่ไหน เธอจึงไม่เชื่อในสิ่งที่ไตรทศมาทำดี แต่เมื่อเธอมาบอกชาคริต โดยหวังว่าชาคริตอาจจะหึงหวงเธอบ้าง กลายเป็นว่าชาคริตอยากให้เธอเล่นเกมนี้กับไตรทศ เพื่อหลอกให้ไตรทศตายใจจะได้แกล้งปั่นหัวคนพวกนั้นอีกทาง

แม้ชญานีจะผิดหวังที่ชาคริตไม่หึงพวง แต่ก็ยอมทำตามคำของพี่ชาย เพราะอยากจะเอาใจเขา และอยากทดลองใจชาคริต ว่าหากเธอกล้าเล่นกับไฟจริง เขาจะนิ่ง ไม่ร้อนรนได้จริงหรือไม่ ? ชญานีตกลงรับนัด ไตรทศที่ร้านอาหาร แม้เธอไม่วางใจเขา แต่ก็อดประทับใจในสิ่งที่ไตทศจัดเตรียมไว้เพื่อเธอไม่ได้ ตลอดมาชญานีได้แต่คอยความรักจากชาคริต แต่ไม่เคยมีใครมาพยายามเอาใจเธอเหมือนที่ไตรทศทำ แถมเธอยังเห็นชาคริตออกเที่ยวกับปาริฉัตร โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของเธอ ไตรทศที่เข้ามาเอาใจได้ถูกเวลาทำให้ชญานีรู้สึกเป็นศัตรูกับไตรทศน้อยลงอย่างไม่รู้ตัว

ชาคริตยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เขาบุกไปหาดิลกถึงบ้าน และเอาเรื่องเขมิกาเปลี่ยนเป็นผู้หญิงขี้เหล้าไปบอก ทำให้ดิลกถึงกับความดันขึ้นสูงจนต้องเข้าโรงพยาบาล ญาดาโกรธแค้น และตามไปตบหน้าชาคริต เขาไม่แยแสสำนึกซ้ำยังจูบแก้แค้นกลับมา ! ญาดาลั่นวาจาว่าเขากับเธอจะต้องเป็นคู่แค้นกันตลอดไป ทางฝ่ายเขมิกาเมื่อรู้ว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลก็เป็นห่วงมาก ได้แอบมาเยี่ยมในตอนดึกที่ไม่มีคนที่บ้านอยู่แล้ว เพียงแต่มาดูเงียบ ๆ ไม่ให้พ่อรู้ตัว เพราะเธอยังคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

ชาคริตสังเกตเห็นว่าทัศนะเป็นห่วงเขมิกามากเกินความสงสาร เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขารักเขมิกา ชาคริตจึงยอมวางมือจากเธอ โดยเบนเป้าหมายไปที่ญาดาแทน ทางฝ่ายเขมิกาก็จับได้ว่าทัศนะแอบตามเธอมาที่ผับ ทัศนะยอมรับว่าทำไปเพราะ รัก แต่เขิมกาไม่เชื่อ เธอคิดว่าทัศนะแค่จะใช้คำ ๆ นี้มาเหนี่ยวรั้งไม่ให้เธอเตลิดหนี ทัศนะเองก็กลัวเขมิกาอึดอัดใจกับความรู้สึกของเขาจึงไม่กล้าอธิบายความจริงกลับเกลื่อน ทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอึดอัด จนเขมิกาแอบหนีออกมาจากบ้านของทัศนะในที่สุด ! ทัศนะจึงตัดสินใจไม่เก็บงำอีก เขาได้ไปบอกความจริงญาดา และออกควานหาตัวเขมิกาอย่างหนักกันอีกครั้ง

แต่คนที่อ่านเกมขาดก่อนใครอื่นนั้นคือชาคริต เขาได้ไปดักรอพบเขมิกาที่โรงพยาบาล ซึ่งหญิงสาวได้แอบมาเยี่ยมพ่อของเธอในยามดึกอีกหน ชาคริตพูดให้เขมิกากลับบ้าน และบอกว่าที่เขาทำนี้ก็เพื่อเห็นแก่ทัศนะ เพื่อนรักของเขาที่รักเธออย่างแท้จริง เขมิกายังไม่ไว้ใจชาคริต เขาจึงรับปากจะพาเธอไปพบกบต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดที่เขาต้องทำร้ายพวกเมธาสิทธิ์ เขาเลือกจะบอกเขมิกาเพราะเธอเป็นคนที่ชื่อที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสามคน

ชาคริตพาเขมิกาไปที่คุก ซึ่งนายกาจ พิชชากร (ทะนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อบังเกิดเกล้าของเขาถูกจองจำมาร่วมยี่สิบปี เพราะโดนป้ายสีจากดิลกผู้ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของพ่อ ในอดีตดิลกได้ผิดใจกับสมบูรณ์เรื่องผลประโยชน์และพลั้งมือฆ่าฝ่ายนั้นเสียชีวิต เขาได้หนีความผิดไปโดยให้กาจต้องรับโทษทัณฑ์แทน นับจากนั้นครอบครัวพิชชากรต้องทนทุกข์ทรมานอย่างสาหัส เมื่อชาคริตสร้างตัวขึ้นมาได้เขาจึงเปลี่ยนนามสกุลเพื่อเข้าไปตีสนิทกับเขมิกาเพื่อล้างแค้น และเขาจะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ญาดาและไตรทศก็จะต้องรับโทษทัณฑ์ด้วยเหมือนกับที่เขาและน้อง ๆ ต้องทนทุกข์กันมา เขมิกาแทบทรุดเมื่อได้รู้ความจริง ใจที่เคยโกรธแค้นชาคริตกลับอ่อนลงมาก เพราะเทียบกันแล้วสิ่งที่เขาทำกับเธอยังน้อยนัก กับบาดแผลที่ครอบครัวพิชชากรต้องได้รับ

ทางบ้านเมธาสิทธิ์ ระหว่างที่คนอื่น ๆ วุ่นวายหาตัวเขมิกา ปาริฉัตรฉวยโอกาสที่ญาดาวุ่นอยู่มาออนเซาะกสิณ และจูบเขาอีกครั้ง แต่โชคไม่ดีอย่างคราวก่อน เพราะญาดาและไตรทศกลับมาเห็นเข้า ญาดาไม่อาจจะทนการโดนหักหลังได้อีก ถึงกับออกจากบ้านไปตอนที่ฝนตกหนัก ไตรทศและกสิณตามไปไม่เจอ ที่แท้เธอไปดื่มดับทุกข์อยู่ที่บาร์แห่งหนึ่ง โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอยู่ภายใต้สายตาของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างชาคริต เขาฉวยโอกาสตอนญาดาเมามายพาตัวเธอไปยังบ้านพักชายทะเล และพยายามทำให้เธอตกเป็นของเขา แต่ญาดายอมตายเสียดีกว่าเสียเท่าให้ศัตรู เธอหนีจนตกบันไดลงมา แถมยังเป็นไข้สูงเพราะโดนฝนอีกด้วย ก่อนที่จะหมดเรี่ยวแรงลง ญาดาคิดว่าเธอจะต้องเสียทีให้แน่ แต่กลับกลายเป็นว่าชาคริตกลับมาดูแลพยาบาลเธอ โดยที่ไม่ได้ล่วงเกิน เขาท้าทายเธออย่างอวดดี ว่าไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเขาจะทำให้เธอยอมเป็นของเขาเองแต่โดยดี ญาดาถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา บอกว่าไม่มีวัน

ไตรทศเครียดมากที่ญาดาหายไปพร้อม ๆ กับที่ชาคริตก็หายไปด้วย แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจที่เขมิกายอมกลับมาบ้าน ในสภาพของคนใหม่ที่นิ่ง และสุขุม เขมิกาในวันนี้ที่ผ่านความทุกข์มาแล้วได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน เธอเข้มแข็ง และไม่กลัวการเผชิญกับความจริงอีกต่อไป เมื่อเธอรู้ข่าวญาดาหายไป เขมิกาไปขอร้องให้ดิลกยอมรับความผิดในอดีต เพื่อขออโหสิกรรมกับครอบครัวของชาคริต ดิลกแสดงพิรุธชัด แต่ยังไม่ยอมรับ และขอร้องให้เขมิกาอย่าบอกพี่น้องคนอื่น ๆ เขมิกาหวั่นว่าอาการของดิลกจะทรุดลง จึงได้แต่รอคอยให้พ่อเผชิญความจริงอย่างใจเย็น ขณะที่ทัศนะนั้นดีใจมากที่เขมิกายอมกลับบ้าน และได้มาบอกควาในใจกับเธอ เขมิกายังไม่พร้อมในตอนนี้ แต่เธอก็รู้แล้วว่าทัศนะคือรักแท้ของเธอ และเขาก็ยินดีที่จะรอจนกว่าวันที่เธอพร้อม

ระหว่างอยู่ที่บ้านพักชายทะเล ญาดาพยายามหาทางหนี แต่อาการป่วยทำให้ไม่คล่องตัว แต่ละครั้งก็จะโดนชาคริตจับตัวได้ ยิ่งเธอหนี ยิ่งเจ็บตัว ชาคริตก็ต้องคอยมาดูแลเธอมากขึ้น ทั้งสองคนต่างได้เห็นมุมอ่อนโยนดี ๆ ที่แฝงฝังอยู่ในตัวของอีกฝ่าย ยามที่ไม่ได้แสดงพายุอารมณ์ต่อกัน หัวใจของญาดาเผลอเต้นแรง และร่างกายก็ผลอ่อนให้กับเขาอย่างไม่ควร เธอเริ่มหวาดกลัวใจตัวเองว่าจะเป็นจริงตามที่ชาคริตปรามาสไว้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายยอมให้กับเขา จึงคิดหนีอย่างจริงจังโดยวางแผนไว้เป็นอย่างดี ใช้ยาสมุนไพรที่ชาวบ้านแถวนั้นกินแทนยานอนหลับมาใส่ให้ชาคริตแล้วจึงหลบหนี

แต่ระหว่างทางกลับถูกชายฉกรรจ์หลายคนจับตัวเอาไว้ได้ เธอกำลังจะต้องลงนรกเพราะพวกมัน เธอเผลอร้องให้ชาคริตช่วย แม้รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอเองเป็นคนวางยาให้เขาหลับไป ปรากฏว่าชาคริตได้มาช่วยเธอจริง ๆ จนเขาเกือบจะถูกคนพวกนั้นฆ่า ดีที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้มาขัดจังหวะไว้ ญาดาคาดไม่ถึงที่ชาคริตยอมเสี่ยงเพื่อปกป้องเธอ แต่คนที่ช็อกยิ่งกว่า คือตัวชาคริตเอง

ระหว่างที่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นญาดา เขาพบว่า มากยิ่งกว่าความโกรธ มันคือความเป็นห่วง ที่ทำให้เขารีบตะเกียกตะกายออกไปตามหาตัวเธอ ตอนที่เห็นพวกนั้นรุมจะทำร้ายเธอเขาแทบทนอยู่ไม่ไหว ! นี่เขาเป็นอะไรไป ? เขากำลังจะแพ้ให้กับลูกสาวของศัตรูหรือ เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงบ้านพัก ชาคริตจึงรุนแรงใส่เธอ เขาต้องการเล่นบทปีศาจร้ายตามเดิม แต่ญาดารู้แล้วว่าหัวใจของเขาไม่ได้โหดร้ายจริงตามที่แสดง เธอร้องไห้และขอร้องต่อเขา และคาดไม่ถึง เธอกลับเห็นชาคริตหยุดะงัก และได้เห็นน้ำตาของเขาหลั่งออกมาเพราะความอัดอั้นและรู้สึกผิดต่อพ่อที่ไม่อาจข่มแหงญาดาได้ ญาดาค่อย ๆ ขับน้ำตาให้ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือการปลอบประโลมกันอย่างลึกล้ำแสนหวาน ทั้งชาคริตและญาดาต่างหลงลืมกันไปว่าพวกเขานั้นคือศัตรู

แต่ฝันอันหวานล้ำได้จบสิ้นลง เมื่อญาดาตื่นขึ้นในตอนเช้าและไม่พบชาคริตอยู่ข้างกาย ! มีเพียงโน้ตจ้อความของเขาที่บอกว่า ในที่สุดเธอก็ตกหลุมพรางเหมือนที่เขาได้เคยบอกเอาไว้ ! ญาดาปวดร้าวใจ แม้ลึก ๆ อยากเชื่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ก็ไม่อาจยอมรับการหักหน้านี้ได้ เธอกลับไปที่บ้านเมธาสิทธิ์ราวกับคนไร้หัวใจ เพราะใจโดนทำลายแล้วอย่างยับเยิน ! แต่คนอย่างญาดาย่อมสามารถกลืนเลือดในอกแล้วเชิดหน้าขึ้นได้ แถมเธอยังปฏิเสธกสิณที่มาขอโทษเรื่องปาริฉัตร และขอเริ่มใหม่ บอกว่าเธอไม่ดีพอสำหรับเขาอีกแล้ว ไตรทศต้องการไล่นกสองหัวอย่างปาริฉัตรออกจากบ้าน แต่ญาดาไม่สนับสนุนเธอยินดีรับความผิดพลาดครั้งนี้ไว้ด้วยตัวเอง

ชาคริตเองเมื่อได้ทำร้ายญาดาแล้ว ก็ได้แต่หลอกตัวเองว่ามีความสุข ทั้งที่ในใจคิดถึงเธอทุกขณะจิต เขาพยายามฝืนใจตัวเองด้วยการควงปาริฉัตรเพื่อเรียกร้องความสนใจจากญาดา แทนที่ญาดาจะแค้นเธอกลับอวยพรให้เขา มันยิ่งกรีดใจของชาคริตยิ่งขึ้น ไตรทศทนดูชาคริตหยามหน้าพี่สาวอีกไม่ไหว ได้หลอกชญานีไปเพื่อหยามเกียรติ์บ้าง แต่ทัศนะได้มาช่วยเหลือไว้ทัน และสั่งสอนไตรทศให้สำนึกว่าเขากำลังทำตัวเช่นเดียวกับชาคริต มันถูกต้องแล้วหรือ ? ไตรทศได้คิดและไม่คิดจะใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือล้างแค้นอย่างเช่นที่ขาคริตทำอีก เขายอมก้มหัวขอโทษชญานี ยอมให้เธอตบหน้า ชญานีแม้ว่าจะโกรธมาก แต่เธอก็เริ่มคิดถึงหัวอกของเขมิกาและญาดาที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ และเริ่มไม่เห็นด้วยกับการกระทำของชาคริต

เมื่อชาคริตใช้ปาริฉัตรทำร้ายญาดาไม่ได้เขาก็ทอดทิ้งเธออย่างเลือดเย็น ปาริฉัตรผิดหวังจึงทอดกายให้กับลูกค้าของชาคริตซึ่งมีครอบครัวแล้ว สุดท้ายเธอก็ได้สามีร่ำรวยสมใจ เพียงแต่เขาไม่ใช่ของเธอคนเดียว และเธอก็ยังคงต้องเป็นรองต่อไป เรื่องราวความรักความแค้นของชาคริต และญาดาจะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมในละคร ระเริงไฟ ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละคร ระเริงไฟ เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560

ระเริงไฟ ออกอากาศทางช่อง 3 และช่อง 33HD ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.20 – 22.50 น. และสามารถติดตามชมย้อนหลังได้ที่ บ้านละคร เช่นเดิมค่ะ

ตัวอย่างระเริงไฟ

[adsense3]